กระต่าย ถือเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่มักนิยมเลี้ยง

นอกจากสุนัขและแมวแล้ว กระต่ายถือเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับต้นๆที่คนสนใจ สังเกตได้ว่ากลุ่มของคนเลี้ยงกระต่ายมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน และรู้สึกดีที่เห็นคนหันมาเลี้ยงกระต่ายมากขึ้น ความจริงแล้วธรรมชาติของสัตว์ชนิดนี้อายุไม่ยืนนัก อายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-10 ปี กระต่ายเป็นสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยงยาก เลี้ยงได้เหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไป เพียงแต่ต้องทราบว่าเขาต้องการอาหารและสิ่งแวดล้อมแบบไหนที่เหมาะสม เนื่องจากกระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่อง ไร้เดียงสาและน่ารัก ส่วนใหญ่มีชีวิตที่น่าเศร้าเพราะอยู่ในป่ามักเป็นผู้ถูกล่า หรือไม่ก็เป็นสัตว์ทดลองในห้องแล็ป

การเลี้ยงกระต่ายควรต้องระวังโรคด้วย เพราะจะมีโรคทั้งที่คนติดจากสัตว์และโรคที่สัตว์เป็นแล้วไม่ติดคน สำหรับโรคที่พบในกระต่ายส่วนใหญ่จะมีโรคท้องเสียจากเชื้อบิด ซึ่งจะทำให้หูแดงคันหรือบิดเบี้ยว โรคติดเชื้อราบริเวณฟันของกระต่าย ฯลฯ สำหรับคนก็สามารถเป็นภูมิแพ้ เช่นแพ้ขนกระต่าย เป็นต้น กรณีที่เลี้ยงกระต่ายร่วมกับสุนัขและแมวควรนำมาฉีดวีคซีนป้องกันพิษสุนขบ้าด้วย ซึ่งการฉีดวัคซีนสามารถทำได้เมื่อกระต่ายอายุ 4 เดือนขึ้นไป หากในบ้านมีเด็กและใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ

กระต่ายเป็นสัตว์กินพืชที่สามารถย่อยอาหารกลุ่มเยื่อใยได้ จึงสามารถกินย่อยหญ้าได้ โดยทั่วไป 80% ของอาหารกระต่ายควรเป็นหญ้าแห้งที่ใส่ไว้ให้กระต่ายกินได้ตลอดเวลา ส่วนอีก 20% ให้แบ่งเป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูปและผักสด ซึ่งควรให้ในเวลาช่วงเช้าและช่วงเย็น หากมีอาหารเม็ดเหลือให้นำออก ส่วนผลไม้ไม่มีความจำเป็นมากนัก อาจจะให้เพียงชิ้นเล็กๆและไม่ควรเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เหตุผลที่ควรให้กระต่ายกินหญ้าเป็นอาหารหลักเพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่ฟันยาวออกมาได้ตลอดชีวิต การให้หญ้าจะทำให้ฟันกระต่ายบดและสบกันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่มีปัญหาฟันยาว รากฟันยาวอักเสบจนเกิดเป็นฝีตามมา อีกทั้งยังช่วยให้แบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี ไม่เกิดภาวะท้องอืดได้

การสังเกตสุขภาพของกระต่าย

1. ทุกๆวันควรสังเกตที่ขี้ของกระต่ายแต่ละตัว ถ้าตัวไหนขี้เหลวไม่เป็นก้อน แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายกระต่ายแล้ว
2. ดูจากลักษณะภายนอกของกระต่าย เช่น ขนร่วง ผิวหนังหยาบกร้านตกสะเก็ด ดวงตาแฉะมีขี้ตามาก ผอม
3. ดูจากอาการที่กระต่ายแสดงออก เช่น ไอจาม ไม่ร่าเริง ไม่กินอาหาร เดินไม่สะดวก เป็นต้น