อุตสาหกรรมสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงของสหรัฐฯมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

8ประชากรสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯในปัจจุบันคาดว่ามีจำนวนประมาณ 380 ล้านกว่าตัวมากกว่าประชากรอเมริกันที่มีประมาณ 300 ล้านกว่าคน American Pet Products Association รายงานว่าในระหว่างปี 2011 – 2012 ร้อยละ 62 ของครัวเรือนสหรัฐฯหรือ 72.9 ครัวเรือนเลี้ยงสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงที่คนอเมริกันนิยมเลี้ยงมากที่สุดเรียงตามลำดับคือสุนัข แมว และปลาน้ำจืดสวยงาม ขณะที่จำนวนสัตว์เลี้ยงที่มีมากที่สุดในสหรัฐฯเรียงตามลำดับคือปลาน้ำจืดสวยงาม แมว และสุนัข

อุตสาหกรรมสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงของสหรัฐฯมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งมาตั้งแต่ปี 1994 แม้ว่าปัจจุบันสหรัฐฯอยู่ในสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจแต่ธุรกิจการค้าสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯได้รับผลกระทบในระดับต่ำมาก นิตยสาร Forbes รายงานว่าในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำผู้บริโภคสหรัฐฯที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ยังคงใช้จ่ายเงินสำหรับสัตว์เลี้ยงในระดับเดิมหรือบางรายมากกว่าเดิม ผู้บริโภคบางรายลดการใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยของตนเองลงเพื่อเหลือเงินสำหรับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสำหรับสัตว์เลี้ยงของตน มีรายงานว่าในช่วงระหว่างปี 2008 – 2010 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังตกต่ำอย่างรุนแรงและอุตสาหกรรมการค้าปลีกโดยทั่ว ๆ ไปของสหรัฐฯได้รับผลกระทบอย่างหนัก การใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงในประเทศสหรัฐฯกลับมีการเติบโตร้อยละ 11.9

สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมค้าปลีกใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของสหรัฐฯ ในปี 2010 การใช้จ่ายเงินสำหรับสัตว์เลี้ยงในสหรัฐฯมีมูลค่า 50.96 ล้านเหรียญฯ ในปี 2012 มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 52.87 ล้านเหรียญฯ การใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และอุปกรณ์เครื่องใช้และยารักษาโรค ตามลำดับ มีการวิเคราะห์ว่าค่าใช้จ่ายที่ผู้บริโภคสหรัฐฯใช้เพื่อสัตว์เลี้ยงในแต่ละปีมีมูลค่าสูงกว่าการใช้จ่ายเงินเพื่อการบันเทิง (ภาพยนต์ ดนตรี และวิดิโอเกมส์ รวมกัน) และสูงกว่าการใช้เงินเพื่อซื้อสินค้าของเล่นและเครื่องประดับธุรกิจค้าปลีกสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ทำเงินมากที่สุดคือธุรกิจบริการที่เป็นการดูแลรักษามีอัตราการขยายตัวของตลาดอย่างรวดเร็วมากคือเฉลี่ยประมาณร้อยละ 6 ต่อปีซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เป็นรองต่อจากอัตราการขยายตัวของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป